วันอาทิตย์ที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2556

วิธีรับประทานเห็ดหลินจือ




วิธีรับประทาน เห็ดหลินจือ DG





  • การรับประทานเห็ดหลินจือ สำหรับผู้ที่เริ่มรับประทาน เห็ดหลินจือ ใหม่ๆ อาจจะรู้สึกมึนศรีษะ ปวดเมื่อย ปวดตามข้อ ง่วงนอน ผิวหนังเกิดอาการคัน อาเจียน อาการคล้ายท้องเสีย ท้องผูก มีปัสสาวะบ่อย หรืออาจมีผลลักษณะอาการของโรคนั้นๆ มากขึ้นเป็นปฏิกริยาสะท้อนกลับอันเป็นเรื่องปกติของการใช้ยาแผนโบราณ เนื่องจากเมื่อตัวยาได้เริ่มเข้าไปในร่างกาย จะเข้าไปชะล้างสิ่งที่เป็นพิษในร่างกาย ให้สลายหรือเคลื่อนย้ายและขับสารพิษออกจากร่างกาย จึงทำให้เกิดอาการดังกล่าว ซึ่งเป็นสัญญาบอกว่าร่างกายกำลังฟื้นตัวไม่ใช่ผลข้างเคียง ดังเช่น ผู้ที่ป่วยเป็นโรคเบาหวานเมื่อกินเห็ดหลินจือ แล้ว อาจมีการขับถ่ายน้ำตาลออกมามากกว่าปกติ ส่วนผู้ที่เป็นโรคไขข้ออาจเกิดอาการเจ็บปวดเพิ่มมากขึ้น โรคไตหรือผู้ป่วยที่ต้องล้างไตจะปวดเมื่อยตามข้อ เท้าจะบวม ร่างกายอ่อนเพลีย ซึ่งอาการเช่นนี้จะเกิดขึ้นในระยะเวลาสั้นๆ เพียง  2 - 3 วัน หรือประมาณ 1 สัปดาห์ ก็จะกลับสู่สภาพปกติ แล้วแต่สภาพร่างกายที่แตกต่างของแต่ละคน ไม่ต้องตกใจ ให้รับประทานเห็ดหลินจือต่อไปอย่าหยุด โดยลดจำนวนแคปซูลลงหากมีผลทางอาการมาก เมื่ออาการปกติให้รับประทานตามคำแนะนำต่อไป สำหรับผู้ป่วยที่กำลังรับประทานยารักษาที่แพทย์สั่งก็สามารถรับประทานเห็ดหลินจือควบคู่ไปได้ นอกจากจะไม่เกิดอาการต่อต้านขึ้นแล้วยังขจัดผลข้างเคียงอันเกิดจากยาแผนปัจจุบันอีกด้วย

  • การที่จะทราบว่าเราควรรับประทานมากน้อยเพียงใด ต้องขึ้นอยู่กับอาการของโรคและสภาพร่างกายของแต่ละคนซึ่งไม่เหมือนกัน เช่น บางคนรับประทาน 3 ชุด ต่อวันก็สามารถบำบัดโรคได้ แต่สภาพร่างกายของบางคนต้องรับประทานเพิ่มเป็น 4 ชุด หรือ 5 ชุด หรือ 6 ชุด ต่อวัน จึงจะได้ผลอย่างมีประสิทธิภาพ

  • ผู้ป่วยเป็นโรคหืดหอบ โรคหัวใจ โรคความดัน โรคเบาหวาน และโรคกระเพาะอาหาร ควรรับประทานหลังอาหาร 30 นาที หรือ 1 ช.ม. หลังจาก 2 สัปดาห์ เมื่อร่างกายปรับสภาพได้แล้ว จึงรับประทานก่อนอาหารเหมือนผู้ป่วยโรคอื่นๆ

  • โรคอื่นๆ ควรรับประทานก่อนอาหาร 30 นาที หรือ 1 ช.ม.

  • ผู้ป่วยเป็นโรคริดสีดวงทวาร  แผลเน่าเปื่อยจากโรคเบาหวาน และโรคมะเร็งที่ผิวหนัง เมื่อรับประทานเห็ดหลินจือตามคำแนะนำแล้ว ให้นำผงราก (RG) หรือส่วนดอกของเห็ดหลินจือ ออกจากแคปซูล นำไปโรยบริเวณที่เป็นแผลอักเสบของรูทวารหนัก และบริเวณที่เป็นแผลอักเสบอื่นๆ สำหรับผู้ป่วยที่กำลังรับประทานยาตามแพทย์สั่ง ไม่ควรละทิ้งยาจากแพทย์อย่างทันที  ให้รับประทานเห็ดหลินจือควบคู่ไปได้

  • การรับประทาน เห็ดหลินจือ ในสัปดาห์แรกจะมีปฏิกริยาเกิดขึ้น เช่นมึนศรีษะ ปวดเมื่อยตามลำตัว  ปวดตามข้อ ผิวหนังเกิดอาการคัน อาเจียน อาการคล้ายท้องเสีย ท้องผูก ปัสสาวะบ่อย หรืออาจมีอาการของโรคนั้นๆ มากขึ้น ผู้ป่วยไม่ควรกังวล ให้รับประทานเห็ดหลินจือ ตามคำแนะนำต่อไป หากมีปฏิกริยาของโรคมาก ให้ลดจำนวนการรับประทานลงตามลำดับ สำหรับบางคนอาจไม่เกิดปฏิกริยาอาการใดๆ ของโรคเลยก็ได้

  • การรับประทาน เห็ดหลินจือ ให้มีประสิทธิภาพ ควรรับประทานติดต่อกันอย่างน้อย 3 เดือน สำหรับโรคทั่วไป และ 6 เดือน สำหรับผู้ป่วยหนัก




วันเสาร์ที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2556

เห็ดหลินจือป้องกันมะเร็ง

กาแฟชาเขียว Dx - Coffee ( ผสมเห็ดหลินจือ )


กาแฟชาเขียว Dx - Coffee ( ผสมเห็ดหลินจือ )



" กาแฟชาเขียว Dx - Coffee ( ผสมเห็ดหลินจือ )"  ผลิตโดยเมล็ดกาแฟคั่วบดชั้นดี และ ผสมสารสกัดจากสมุนไพรชั้นยอดอย่างเห็ดหลินจือ ที่ได้รับการยอมรับว่ามีประโยชน์ต่อสุขภาพ มีสรรพคุณมากมาย ดังนี้


  • สารสกัดจากชาเขียว และสารสกัดจากเห็ดหลินจือ มีสรรพคุณในการ ต่อต้านสารอนุมูลอิสระ ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันของร่างกาย

  • สารสกัดจากชาเขียว และสารสกัดจากเห็ดหลินจือ สามารถช่วยลดความดันโลหิต ช่วยกระตุ้นการเต้นของหัวใจ เพิ่มการไหลเวียนโลหิต ป้องกันโรคเบาหวาน และ โรคตับ

  • เสริมสร้างการไหลเวียนออกซิเจนในร่างกาย ลดความเครียด 

  • ช่วยบำรุงสมอง เพิ่มความจำ

ส่วนประกอบสำคัญ

              

1. ผงกาแฟแต่งกลิ่นและรส
2. โมโนไฮเดรต เดกซ์โทรส
3. ฟรักโทส
4. ไม่มีส่วนผสมครีมเทียม
5. หางนมผง
6. สารสกัดเห็ดหลินจือ
7. สารสกัดชาเขียว


ราคา 350 บาท .........^^













วันอาทิตย์ที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2556

ทำไมเราควรต้องทาน อาหารเสริม ?




นพ.เรย์ ดี สแตรนด์ (Ray D. Strand, M.D.) แพทย์ผู้เชียวชาญ และผู้แต่งหนังสือ เมื่อคุณหมอไม่รู้จักอาหารเสริม ความตายอาจ กำลังครอบงำคุณ และ ใบสั่งยา อาจฆ่าคุณ ทำการวิจัยเกือบ 10 ปี พบว่าคุณประโยชน์ของ "สารอาหารบำบัด" ที่มีคุณภาพสูง สามารถช่วยให้ร่างกายมีสมรรถภาพต่างๆ คือ































ทำไมเราควรต้องทานอาหารเสริม ?


ทุกวันนี้คนเราเจอกับมลภาวะตั้งแต่ อากาศที่หายใจ อาหารที่รับประทาน น้ำที่ดื่มทุกวัน ก่อให้เกิดปัญหาอนุมูลอิสระสะสมในร่างกายเป็นประจำทุกวันแบบไม่รู้ตัว หนำซ้ำอาวุธที่มนุษย์มีไว้ต่อต้านอนุมูลอิสระจากธรรมชาติก็ร่อยหรอลงไปทุกที จะหาผักผลไม้ปลอดสารพิษได้จากที่ไหน? แร่ธาตุในดินที่ลดลงไปเรื่อยๆ จะทำให้ผลไม้มีคุณค่าเพียงพอได้อีกกี่ปี? เศรษฐกิจซบเงินซื้อผลไม้ก็ดูจะกลายเป็นของฟุ่มเฟือยสำหรับบางครอบครัว หลากหลายปัญหาที่ทำให้มนุษย์เป็นโรคเสื่อม ทั้งเกิดจากภายนอกและจากภายในคือความเครียดจากการทำงานก็ก่อให้เกิดปัญหากับ ระบบร่างกายเช่นเดียวกัน วันนี้อาจจะยังแข็งแรงอยู่ แต่ทุกอย่างมันกำลังก่อร่างสร้างตัวอยู่ในร่างกายของคุณนั่นเอง เมื่อใดเม็ดเลือดขาวแพ้ เมื่อนั้นก็จะแสดงอาการออกมา

สารอาหารบำบัดหรือที่ในบ้านเราเรียก กันว่า "ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร" นั้นดูหลายคนจะขยาดและอยากวิ่งหนีเมื่อได้ยินคำนี้เพราะทราบว่าต้องเสีย เงิน... จริงๆ แล้วมันเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งในการป้องกันและแก้ไขเราจากโรคเสื่อมต่างๆ ที่มีอันดับการตายเป็นอันดับ 1 - 10 อยู่ทุกๆ ปี เช่น โรคหัวใจ, โรคมะเร็ง, โรคไขข้อ, โรคหลอดเลือดอุดตัน, โรคเบาหวาน ฯลฯ อีกสารพัด สาเหตุหลักที่เกิดโรคพวกนี้ขึ้นก็เพราะ "เซลอ่อนแอ" หรือ "เซลขาดอ็อกซิเจน" เพราะสู้รบกับอนุมูลอิสระไม่ไหวนั่นเอง จึงเป็นสาเหตุที่เราต้องมอง "สารอาหารบำบัด" เพื่อป้องกันโรคเสื่อมที่สะสมอยู่ในร่างกาย

ทำไมต้องใช้สารอาหารบำบัด ?



นพ.เรย์ ดี สแตรนด์ (Ray D. Strand, M.D.) แพทย์ผู้เชียวชาญ และผู้แต่งหนังสือ เมื่อคุณหมอไม่รู้จักอาหารเสริม ความตายอาจ กำลังครอบงำคุณ และ ใบสั่งยา อาจฆ่าคุณ ทำการวิจัยเกือบ 10 ปี พบว่าคุณประโยชน์ของ "สารอาหารบำบัด" ที่มีคุณภาพสูง สามารถช่วยให้ร่างกายมีสมรรถภาพต่างๆ คือ

1. เพิ่มภูมิต้านทานโรค


2. เพิ่มศักยภาพให้ Antioxidant สารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยป้องกันความเสื่อม ความชรา และมะเร็ง
 
3. ลด ความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด โรคลมปัจจุบัน มะเร็ง ข้ออักเสบ ความเสื่อม ต้อกระจก อัลไซเมอร์ พาร์กินสัน ภูมิแพ้ หืด โรคปอด โรคจากความเสื่อมเรื้อรัง
 
4. ช่วยรักษาโรคที่มีความเสื่อมเริ้อรัง

จากข้อมูลในหนังสือของคุณหมอเรย์ ดี สแตรนด์ ได้มีข้อมูลยืนยันว่า นักศึกษาแพทย์ได้เรียนทางด้านโภชนาการ หรือเรื่องสารอาหารน้อยมาก แค่ไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น จากการเรียนแพทย์ถึง 6 ปี ส่วนใหญ่จะเรียนแต่เรื่องยากับการผ่าตัด    ดังนั้นคุณหมอ 95% ในโลกนี้จะไม่มีความรู้เรื่องของอาหารเสริมเลย และจะบอกกับท่านว่า "ทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ก็พอแล้ว"

คำถามต่อไปนี้ ถ้า..คุณตอบว่า ใช่..! ในข้อใดข้อหนึ่ง คุณสมควรทาน "อาหารเสริม"


1. คุณไม่ได้กินอาหารดีๆ มีประโยชน์ทุกมื้อ เช่น ข้าวกล้อง ธัญพืช ผัก และผลไม้สดอินทรีย์ (ไร้สารพิษ 100%) เต้าหู้  สาหร่ายทะเล ปลา และอาหารทะเลไร้สารพิษ เป็นต้น
 
2. คุณไม่ได้ทานผักครบ 5 สีทุกมื้อ หรือทานผลไม้ครบ 2 ก.ก.ทุกวัน(หรือ 80% ใน 1 วัน)
 



3. คุณทานอาหารเป็นประเภททอด ปิ้ง ย่าง ผัด เป็นส่วนใหญ่ และใช้ความร้อนกับน้ำมันพืชเกิน 60 องศาฯ  (ก่อให้ เกิดอนุมูลอิสระมหาศาลตั้งแต่กระบวนการทำอาหาร จนถึงรับประทานเข้าไป)      

4. คุณไม่ได้ออกกำลังกายอย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 ครั้งขึ้นไป

5. คุณอยากมี "สุขภาพดี 120 ปี ไม่มีป่วย" หรืออยากมีสุขภาพดูดีอ่อนกว่าวัย 10 - 30 ปี

6. คุณไม่อยากเป็นเหมือนคนทั่วไป ที่มีความเจ็บป่วย พิการ ดูเหมือนเป็นเรื่อง "ธรรมดา" ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เช่น

* อายุ 40 ปี เริ่มมีโรค เริ่มพบแพทย์

* อายุ 50 ปี มีโรคเรื้อรัง เช่น โรคหัวใจ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ต้องกินยาตลอดชีวิต

* อายุ 60 ปี ต้องนอนโรงพยาบาล เป็นมะเร็ง หรือผ่าตัด เสียเงินอีกหลายแสนบาท

* อายุ 70 ปี ต้องนอนโรงพยาบาลนาน 2 - 3 เดือน หรือนอน ICU

* อายุ 80 ปี พิการ อัมพาต นอนบนเตียงตลอดชีวิต หรือตาย


จริงๆ แล้วคุณสามารถป้องกันได้ทั้งหมด ด้วยการดูแลเซลให้แข็งแรงอยู่เสมอ กระตุ้นเม็ดเลือดขาวให้คอยต่อต้านอนุมูลอิสระ ไม่ให้ส่วนไหนของร่างกายอ่อนแอ แต่จะทำได้ "สารอาหารบำบัด" จึงจำเป็น


เหตุผลในการเลือกกินผลิตภัณฑ์ "สารอาหารบำบัด" ของคนทั่วไป 5 อันดับแรก

1. ดีต่อสุขภาพ 25.5 %


 2. แข็งแรงไม่เจ็บป่วยง่าย 24.0 %

3. มีภูมิต้านทานโรค 12.5 %

4. มีประโยชน์ต่อร่างกาย 9.0 %

5. ไม่อยากอ้วน/ควบคุมน้ำหนัก 4.0 %




การรักษาผู้ป่วยด้วยอาหารเสริมได้ผลดีในสหรัฐอเมริกา

นายแพทย์ เรย์ ดี.แสตรนด์ เป็นแพทย์ชาวสหรัฐอเมริกา ก่อนหน้านี้คุณหมอเรย์ ก็เหมือนหมอทั่วไป ที่ไม่เชื่อถือในคุณประโยชน์ของอาหารเสริม เมื่อคนป่วยมาถามว่า สมควรกินอาหารเสริมหรือไม่ คุณหมอเรย์ ก็ตอบอย่างไม่ลังเลว่า อย่ากินเลย เสียเงินเปล่าๆ อาหารที่เรากินเข้าไปทุกวันก็มีสารอาหารมากพอแล้ว

ต่อมาคุณลิซ ภรรยาของคุณหมอเรย์ ล้มป่วยด้วยโรค เนื้อเยื่อแข็ง หรือ Fibromyalgia อาการที่คุณลิซเป็นคือ เหนื่อยมาก จนไม่สามารถแม้จะก้าวขาเดิน เจ็บปวดตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย ทั้งภูมิแพ้ ไซนัส และปอดก็ติดเชื้อด้วย 

คุณหมอเรย์ ได้ ระดมทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ รักษาคุณลิซ ซึ่งเป็นภรรยาสุดความสามารถ แต่ดูเหมือนว่า อาการของคุณลิซ ยิ่งทรุดลงเรื่อยๆ ถึงขนาดลุกห่างจากเตียงไม่ได้ อาการหอบและภูมิแพ้ยิ่งกำเริบหนักมากยิ่งขึ้น ความพยายามของคุณหมอเรย์ ผู้เป็นสามีถึงทางตัน ไม่มีทางเยียวยารักษาคุณลิซ ผู้ภรรยาได้อีกแล้ว

โชคดี เพื่อนบ้านได้มาเยี่ยม และได้แนะนำคุณลิซ ให้รับประทานอาหารเสริม คุณลิซก็หมดหนทางแล้ว จึงปรึกษาคุณหมอเรย์ ผู้สามีว่า สมควรรับประทานอาหารเสริมดังกล่าวหรือไม่ คุณหมอเรย์ ซึ่งไม่เคยเชื่อถืออาหารเสริมมาก่อนได้บอกกับภรรยาว่า จะกินก็กินไปเถอะ เพราะไม่มีอะไรจะเสียมากกว่านี้แล้ว

คุณลิซผู้ภรรยาได้ เริ่มกินอาหารเสริม ซึ่งระบุว่า มีสารอาหารประเภทวิตามินต่างๆ และ เบต้าแคโรทีน น่าประหลาดใจ หลังจากที่คุณลิซกินอาหารเสริมดังกล่าวเพียง 3 วัน อาการก็เริ่มดีขึ้น และดีขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งกลับมาใช้ชีวิตได้เหมือนคนปกติ

ปรากฎการณ์ดังกล่าว สร้างความดีใจและสร้างความสับสนให้คุณหมอเรย์ ผู้สามีเป็นอย่างมาก ทั้งนี้เพราะเขาไม่เคยเชื่อมาก่อนเลยว่า อาหารเสริมจะมีคุณค่าทำให้คนป่วยหายป่วยได้

ในฐานะที่เป็นแพทย์ คุณหมอเรย์ ยัง ไม่ปักใจเชื่อในคุณค่าอาหารเสริม เขาจึงโทรศัพท์ไปหาคนป่วยที่เขาเคยรักษาด้วยยาแผนปัจจุบัน แต่รักษาไม่หาย ให้กลับมารักษาใหม่ ซึ่งคนไข้ก็กลับมารับการรักษาใหม่ ในการรักษารอบใหม่ คุณหมอเรย์ ได้ ให้อาหารเสริมกับคนไข้ทุกคน ผลปรากฎว่า คนไข้ที่เคยรักษาไม่หาย แต่เมื่อให้อาหารเสริมควบคู่กับยาแผนปัจจุบัน อาการของคนไข้ทุกคนดีขึ้น จนถึงหายจากอาการป่วยไข้ที่เป็นมาแรมปี

เมื่อได้ข้อสรุปว่า อาหารเสริมสามารถช่วยคนป่วยให้หายป่วยได้จริงๆ คุณหมอเรย์ จึง เริ่มศึกษา ค้นคว้า ทดลอง หาสารอาหารที่อยู่ในอาหารเสริมว่ามีส่วนเกี่ยวพันกับสุขภาพของคนเราอย่างไร อย่างจริงจัง โดยใช้เวลาในการศึกษาวิจัยถึง 7 ปี ในที่สุดก็ได้พบว่า อาหารเสริมที่สกัดจากพืชหรือสัตว์โดยปราศจากเคมี จะช่วยให้ผู้ป่วยหายป่วยได้จริง และคนปกติหากรับประทานอาหารเสริมเป็นประจำ ก็จะทำให้สุขภาพแข็งแรง ไม่เกิดการเจ็บป่วยง่ายๆ คุณหมอเรย์ จึงสรุปว่า ผู้ที่รับประทานอาหารเสริมที่มีสารอาหารสูง จะได้ประโยชน์ต่อสุขภาพ ดังนี้


1. เพิ่มภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย ทำให้ร่างกายต่อสู้กับโรคหรือเชื้อโรคต่างๆ ได้

2. เพิ่มศักยภาพให้กับระบบต่อต้านอนุมูลอิสระ

3. ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด

4. ลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคลมปัจจุบัน

5. ลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็ง

6. ลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคข้อต่ออักเสบ ความเสื่อมเฉพาะจุด และโรคต้อกระจก

7. ลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคอัลไซเมอร์ พากินสัน หอบหืด ปอด และโรคที่เกิดจากความเสื่อมของอวัยวะชนิดเรื้อรังอื่นๆ

8. พัฒนาการรักษาโรคที่เกิดจากความเสื่อมเรื้อรังได้อย่างมีประสิทธิภาพ










วันพฤหัสบดีที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2556

กาแฟ 3 in 1 ผสมเห็ดหลินจือ


กาแฟ 3 in 1 ผสมเห็ดหลินจือ(สินค้าที่ได้รับการรับรองจาก OTOP)



กาแฟ 3 in 1 ผสมเห็ดหลินจือ เป็นกาแฟที่ทำมาจากเมล็ดพันธุ์ชั้นดี มีรสชาติเยี่ยม กลมกล่อม กลิ่นหอมกรุ่น เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบดื่มกาแฟ หรือผู้ที่มีปัญหาสุขภาพ ไม่สามารถดื่มกาแฟทั่วๆไปได้ นอกจากจะได้รับประโยชน์จากเห็ดหลินจือแล้ว ยังไม่ทำให้กระเพาะอาหารอักเสบ ช่วยให้การทำงานของระบบไต ทำงานได้ดีขึ้น และที่สำคัญ เห็ดหลินจือ จะช่วยในการขับสารคาเฟอีน ไม่ให้สะสมในร่างกาย และด้วยสรรพคุณดังกล่าว ทำให้ผู้บริโภคได้รับประโยชน์ ดังนี้


ทะเบียน อย. 94-2-00943-2-0001

- กาแฟโดยทั่วไปมีสารคาเฟอีนสูงทำให้สะสมในร่าง กายซึ่งจะเป็นอันตรายต่อตับ และไตแต่กาแฟปรุงสำเร็จ 3 in 1 ผสมเห็ดหลินจือ มีส่วนผสมของเห็ดหลินจืออยู่ 3%

- สามารถขับสารคาเฟอีนส่วนเกินออกจากร่างกาย ทำให้ สุขภาพ แข็งแรงเพิ่มความสดชื่นจิตใจแจ่มใสและไม่มีสารตกค้าง ผู้ที่ไม่เคยดื่มกาแฟมาก่อนเลยก็สามารถดื่มได้โดยที่หัวใจไม่สั่นไม่บีบหัวใจไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพเห็ดหลินจือ 3% ที่ผสมอยู่


- ในกาแฟ สามารถเข้าไปตรวจสอบสภาพเสื่อมภายในร่างกายและฟื้นฟู สภาพ เสื่อมในเบื้องต้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ กาแฟโดยทั่วไป ผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวานภูมิแพ้ ไม่สามารถดื่มได้แต่กาแฟ ปรุงสำเร็จ 3 in 1 ผสมเห็ดหลินจือของ DAXIN ผู้มีปัญหาสุขภาพ





ราคากล่องเล็ก 135 บาท (10 ซอง)


ราคากล่องใหญ่ 250 บาท (20 ซอง)




วันศุกร์ที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2556

สบู่บล๊อคสิว สมุนไพรไม้แก่นจันทร์



สบู่บล๊อคสิวสมุนไพร ไม้แก่นจันทร์ ผสมเห็ดหลินจือ

สบู่บล๊อคสิวสมุนไพร ไม้แก่นจันทร์ ผสมเห็ดหลินจือ


                   สุดยอดสบู่บล๊อคสิว ทำความสะอาดผิว ที่มีสารสกัดจาก เห็ดหลินจือ และสารสกัดจากสมุนไพรไม้แก่นจันทร์ ทำให้ผิวสะอาดเกลี้ยงเกลา ช่วยปรับสมดุลของผิว ขจัดความมันส่วนเกิน ที่เป็นสาเหตุของการเกิดสิวบนใบหน้า และคืนความชุ่มชื้นให้กับผิวส่วนที่แห้ง                ( เหมาะสำหรับผู้ที่มีสภาพผิวมัน...มว๊าก )

@ สบู่บล๊อคสิว ไม้แก่นจันทร์ มีกลิ่นหอมใหม่ เหมาะสำหรับทุกคนในครอบครัว และใช้ได้กับทุกเพศทุกวัยสามารถใช้เป็นประ จำทุกวันผิวจะสวยใสมีสุขภาพดี

@ สารสกัดจากเห็ดหลินจือ ในสบู่บล๊อคสิว ไม้แก่นจันทร์ ช่วยถนอมผิวให้เรียบเนียนทำให้ผิวสดใสเปล่งปลั่งและช่วยขจัดสิ่งสกปรกตกที่ตกค้างได้เป็นอย่างดี

@ เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวมันหรือผิวผสม

@ สารสกัดจากสมุนไพรไม้แก่นจันทร์ ทำให้ผิวสะอาดเกลี้ยงเกลา จึงช่วยบรรเทาอาการอักเสบจากสิวพร้อมปกป้องผิวไม่ให้เกิดจุดด่างดำหรือรอยแผลเป็นจากสิว


@ สบู่ไม้แก่นจันทร์ ช่วยรักษาโรคผิวหนัง แก้โรคเรื้อน แก้มะเร็ง


@ ขจัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพและความมันส่วนเกินโดยไม่ทำร้าย ผิวให้แห้งตึง


สบู่บล๊อคสิวสมุนไพร ไม้แก่นจันทร์

ราคา 330 บาท


วันอังคารที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2556

ติดต่อเรา






สำหรับท่านที่ต้องการเห็ดหลินจือ รากและดอก 6 สายพันธุ์   สามารถสั่งซื้อสินค้าได้ตามนี้คร้าบ....   


ตัวอย่าง



เห็ด(ชุดเล็ก) 1 ชุด ราคา 640 + ค่าส่ง ems 50 บาท รวมยอดโอน 690 บาท 

เห็ด(ชุดใหญ่ ) 1 ชุด ราคา 1670 + ค่าส่ง ems 50 บาท รวมยอดโอน 1720 บาท 


ชำระเงินโดยโอนเข้าบัญชีใดบัญชีหนึ่ง ตามนี้เลยครับ

ธนาคาร TMB คุณรพี หมายเจริญศรี 5552103730
ธนาคาร กสิกร คุณรพี หมายเจริญศรี 9592045629

ธนาคาร กรุงเทพ คุณรพี หมายเจริญศรี 4707051696
ธนาคาร กรุงไทย คุณรพี หมายเจริญศรี 6320383739


โอนแล้วแจ้งรายละเอียดการโอนเงินได้ทาง>> Line : Notekanna หรือ เบอร์ 090-4546616 (รพี)
1.ยอดเงินที่โอน + เวลา และวันที่ที่โอน (หรือถ่ายสลิปส่งแนบมา)
2. ชื่อ-นามสกุลผู้รับ และที่อยู่จัดส่ง + เบอโทรศัพท์
3. เก็บสลิปใบเสร็จไว้...อย่าเพิ่งทิ้ง...จนกว่าจะได้รับสินค้านะครับ
** สอบถามด่วน 090 – 4546616 (รพี) **

** ขอบคุณลูกค้าทุกท่านที่ให้การสนับสนุนคร้าบบ **